วิธีการวิ่ง | ||||||||||||
|
||||||||||||
|
||||||||||||
การออกจากเบสของผู้วิ่ง Runner การออกจากเบสครั้งแรก ควรอยู่ในตำแหน่งปลอดภัย ( Safety Lead ) เมื่อ Pitcher ยกขาที่จะขว้างลูก ให้เคลื่อนที่ต่อไปอีก 2-3 ก้าว (ลีด 2) แล้วดูลูกจนถึง Catcher ถ้ารับได้ให้รีบกลับ แต่ถ้ารับไม่ได้ให้วิ่งไปเบสที่ 3 และหาก Batter ตีลูกเป็น Grownd Ball ออกทางเบสที่ 1 และเบสที่ 2 ให้วิ่งไปเบสที่ 3 | ||||||||||||
การออกจากเบสของผู้วิ่ง Runner ต้องลีดออกเป็นเส้นโค้ง ระหว่างเบสที่ 2 และเบสที่ 3 ในตำแหน่งปลอดภัย ( Safety Lead ) เมื่อ Pitcher ยกขาที่จะขว้างลูกให้ลีด 2 แล้ว ดูลูกจนถึง Catcher ถ้ารับได้ให้รีบกลับ แต่ถ้ารับไม่ได้ให้วิ่งไปที่เบสที่ 3 และถ้า Batter ตีต้องวิ่งทุกลูกและต้องวิ่งจนถึงโฮม โดยเฉพาะเมื่อผู้วิ่ง (Runner) อยู่ที่เบสที่ 2 ถือว่าเป็นตำแหน่ง ที่ต้องได้คะแนน ( Scoring Position ) | ||||||||||||
|
||||||||||||
เมื่อได้รับสัญญาณ (Sign) จากโค้ชให้ขโมย Runner จะลีดเหมือนปกติ ทำตัวให้สบายๆ อย่าเกร็งหรือทำให้ Pitcher รู้ว่าจะขโมยเบสสายตาให้มองที่ Pitcher ให้แน่ใจว่า Pitcher จะขว้างลูกไปที่ Catcher แล้วจึงวิ่งไปที่เบสที่ 2 ไม่ต้องมองลูกที่ Pitcher ขว้างไป | ||||||||||||
|
||||||||||||
การออกจากเบสให้ก้าวขาซ้ายอ้อมไปข้างหลังขาขวา ไม่ควรก้าวขาซ้ายอ้อมไปหน้าขาขวา เพราะจะทำให้วิ่งกลับได้ช้า ให้ก้าวออกไป 3-4 เมตร ให้น้ำหนักตัวอยู่ที่ขาขวา เพื่อถ้า Pitcher เช็คมาที่ B1 Runner จะพุ่งกลับ B1 ได้ทัน เมื่อ Pitcher ขว้างลูกไปที่ Catcher ให้ Runner วิ่งไป 4-5 ก้าว แต่สายตาให้มองลูกที่ Pitcher ขว้างไป ถ้า Catcher รับลูกได้ให้ Runner วิ่งกลับมาที่ B1 แต่ถ้า Catcher รับลูกไม่ได้ให้ Runner วิ่งไปที่ B2 | ||||||||||||
|
||||||||||||
Runner วิ่งมาเต็มที่ประมาณ 3 เมตร ก่อนที่จะถึงเบสบอลให้พับขาซ้ายเข้าด้านใน พร้อมยกขาขวาขึ้น โดยส่วนของขาซ้ายที่สัมผัสพื้นพ้นจะใช้บริเวณพับนอก ส่วนเท้าขวายกให้เหนือพื้น พอมาถึงเบสให้เอาเท้าขวายันเบส พร้อมกับลุกขึ้นยืนและมองลูก ถ้ารับลูกไม่ได้ให้วิ่งต่อ | ||||||||||||
Runner วิ่งมาเต็มที่ และก่อนที่จะสไลด์ให้มองที่ผู้เล่น infield ซึ่งรอรับลูกอยู่ที่เบส ถ้าเขารับลูกทางด้านซ้ายของ Runner ให้ Runner ล้มตัวหนีการทัชไปทางขวา แต่ถ้า infield รับลูกทางด้านขวาให้ Runner ล้มตัวหนีการทัชไปทางซ้าย | ||||||||||||
|
||||||||||||
Runner วิ่งมาเต็มที่ประมาณ 4 เมตร ก่อนที่จะถึงเบสให้ล้มและพุ่งตัวไปหาเบส | ||||||||||||
|
||||||||||||
|
||||||||||||
|
||||||||||||
เพราะโค้ชเบส 3 ถือว่าสำคัญมากกว่าโค้ชเบส 1 ถ้าโค้ชเบส 3 ตัดสินใจถูกจะเป็นผลดีกับทีมมากเพราะโค้ชช่วยผู้วิ่ง Runner ในการตัดสินใจในการวิ่งและการเข้าเบส ผู้วิ่ง Runner ต้องเชื่อฟังคำสั่งโค้ช | ||||||||||||
ลักษณะและการแสดงท่าทางของโค้ช เพื่อให้ผู้วิ่ง Runner เล่นต่อไปจนกว่าโค้ชจะสั่งให้หยุด |
||||||||||||
เมื่อผู้วิ่ง Runner จาก B1 ถึง ครึ่งเบส ต้องมองดูโค้ช B3 ว่าจะให้ไปต่อหรือหยุดดั่งภาพ 2 ลักษณะการบอกผู้วิ่ง Runner ให้หยุดอยู่ที่ B2 เท่านั้น |
||||||||||||
เมื่อผู้วิ่ง Runner มาถึง B3 ให้ดูโค้ชทำในลักษณะดังรูป ให้หยุดโดยไม่ต้องลง Sliding | ||||||||||||
ลักษณะการบอกให้ผู้วิ่ง Runner ลง Sliding ในแนวตรงโดยไม่ต้องไปต่อ | ||||||||||||
ลักษณะการบอกให้ผู้วิ่ง Runner ลง Sliding ในลักษณะหนีการทำให้ Out มีอยู่ 2 อย่างให้ไปทางซ้ายหรือขวา | ||||||||||||
ในสนามหรือบนเบสไม่มี ผู้วิ่ง Runner โค้ชต้องยืนเข้ามาใกล้โฮมเพลทมากที่สุด เพื่อช่วย Batter ในการตัดสินใจว่าจะตีลูกไหน จะทำให้ตีได้ดีมากขึ้น | ||||||||||||
ในสนามหรือบนเบสมีผู้
วิ่ง Runner อยู่ที่ B2 โค้ชเบส 1 ต้องช่วยดูผู้เล่นของอีกทีม (ทีมรับ)
หรือตำแหน่ง SS ว่าเข้ามาหรือเปล่า ส่วนโค้ชเบส 3
บอกให้วิ่งหรือกลับเข้าเบสเพราะผู้วิ่งในตำแหน่งสำคัญถือว่าเป็น ตำแหน่งที่จะได้คะแนน Scoring Position นั้นเอง |
||||||||||||
ในสนามหรือบน B1 , B2 มีผู้วิ่งอยู่โค้ช B1 ต้องดูผู้เล่นในตำแหน่ง First SS ในทีมรับว่า เข้าเบสหรือไม่แล้วบอกกันหรือ ลีด 2 โค้ชเบส 3 ช่วยอีกที |
วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555
วิธีการวิ่ง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น